ในช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่กระทบไปยังทุกฝ่าย ทั้งในเรื่องของการเดินทาง การทำงาน การเรียน และการใช้ชีวิต ซึ่งไม่เพียงแต่มนุษย์อย่างเรา ๆ เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เพราะแม้แต่ ‘สัตว์’ ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์เองก็ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย
อย่างตอนนี้ที่ ‘คุ้มเสือ’ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยด้วยเหล่าเสือตัวใหญ่น่าเกรงขาม แต่มาพร้อมกับความเชื่องและความสามารถทำให้เหล่านักท่องเที่ยวติดอกติดใจ แต่ในปัจจุบันเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเดินทางมาเยี่ยมชมมันสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลนี้เลยทำให้เหล่าพี่เลี้ยงเสือเห็นอกเห็นใจ กลัวพวกมันจะเหงาหงอย เพราะปกติจะต้องคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ พี่เลี้ยงจึงเข้าไปเล่นและไปกอดพวกมันเหมือนเป็นแมวตัวเล็ก ๆ เลยล่ะ และอย่างที่เห็นในภาพ คือ เจ้าบ๊วย เจ้าแบ้ง เสือโคร่งเบงกอล เพศผู้ วัย 7 ปี และนอกจากนี้พี่เลี้ยงยังเข้าไปช่วยลูบหัวเกาคางให้กับเจ้าน้ำมนต์และนะโม สองเสือชีตาร์ ได้ผ่อนคลายสบายอารมณ์อีกด้วย
โดยในแต่ละวันพี่เลี้ยงจะเข้าไปเรียกชื่อ กอด และ สัมผัสตัวเพื่อให้พวกมัน ซึ่งจุดประสงค์หลักนอกจากจะช่วยให้เหล่าเสือ ผ่อนคลาย และคลายความเหงาได้แล้ว วิธีการนี้ยังช่วยให้เสือยังคงคุ้นเคยใกล้ชิดกับคนได้ เพราะหากปล่อยให้เสืออยู่แบบเหงา ๆ ไม่เจอหน้าคนเลยจะทำให้สัญชาติญาณความดุร้ายของมันกลับมา และอาจทำร้ายนักท่องเที่ยวในอนาคตได้นั่นเองค่ะ
ส.พญ.ชนากานต์ อารีย์วงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสัตวแพทย์ ระบุว่า การดูแลเสือช่วงปกติกับช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 จะใช้มาตรฐานเดียวกัน โดยแต่ละวันจะมีทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล เข้ามาดูสุขภาพ โภชนาการ รวมไปถึงความสะอาดทั้งในและนอกกรงเสือ แต่เนื่องจากช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19ในระลอกแรก ทำให้คุ้มเสือต้องปิดไปนานถึง 3 เดือน จึงส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในปัจจุบันลดน้อยไปจากเดิม แต่ทั้งนี้ก็ได้ให้พี่เลี้ยงเข้าไปคลุกคลีสัมผัสวันละอย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้พฤติกรรมเปลี่ยนจากการที่ไม่เจอผู้คนมานาน พร้อมกับมีโปรแกรมรับอาสาสมัครเข้ามาช่วยดูแลและเล่นกับเสือเพื่อไม่ให้เปลี่ยนนิสัย โดยทั้งหมดนี้อยู่ภายในมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ด้าน นางอรพิน ชินวัตร ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า ปัจจุบันคุ้มเสือมีเสือโคร่งพันธ์เบงกอล ไซบีเรียน และ ชีตาร์ รวมกว่า 48 ตัว และทุกวันทางคุ้มเสือมีมาตรการความสะอาดและปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารสุขทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นพื้นทั้งในและนอกกรงเสือทุก ๆ 3 วัน ส่วนพนักงาน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจะต้องล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน
นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่านักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมเสือที่คุ้มแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย รวมไปถึงยังเป็นการช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย หากใครมีโอกาสไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็อย่าลืมแวะไปชมความน่ารักของเหล่าเสือได้ที่คุ้มเสือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก่อนไปก็อย่าลืมตรวจโควิดหรือตรวจโควิดที่บ้านเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ
ข้อมูล : Sanook
